การส่งเสริมการเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคม Social Emotional Learning : SEL ในชั้นเรียนสำคัญไฉน? 

feather-calendarPosted by เมตตา มงคลธีระเดช feather-calendarPosted on 21 กุมภาพันธ์ 2023 document
  • ,
  • Pedagogy
แชร์

ผู้เรียนนั้นล้วนมีความหลากหลายและแตกต่างกัน ทั้งในเชิงของกระบวนการคิด การได้รับการปลูกฝัง ทัศนคติ ประสบการณ์การเรียนรู้ หรือแม้แต่ความแตกต่างทางวัฒนธรรม ในการสร้างการมีส่วนร่วมในชั้นเรียนนั้น การเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคมจึงเป็นพื้นฐานสำคัญ เพื่อให้ห้องเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัย และเสริมสร้างกระบวนการคิดเชิงบวก เพิ่มพูนความสามารถของผู้เรียน รวมไปถึงการทำงานและการใช้ชีวิตในสังคม 

Social Emotional Learning หรือ SEL คือ กระบวนการพัฒนาทักษะอารมณ์และสังคม ในการทำความเข้าใจและจัดการอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น การรักษาความสัมพันธ์เชิงบวกและตัดสินใจอย่างมีความรับผิดชอบ โดยประกอบด้วยทักษะ 5 ประการ ได้แก่ 

1. Self-Awareness การตระหนักรู้ในตัวเอง 

การเข้าใจอารมณ์ เข้าใจความต้องการของตนเอง สามารถประเมินจุดแข็งจุดอ่อนของตนเองได้ ซึ่งในการตระหนักรู้ขั้นสูง ผู้เรียนจะสามารถเชื่อมโยงระหว่างความคิด ความรู้สึก และการกระทำเข้าด้วยกันได้ 

2. Self-Management การบริหารจัดการตัวเอง 

ความสามารถในการควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมของตนเองที่มีต่อสถานการณ์ต่าง ๆ สามารถจัดการความเครียด อารมณ์ของตน และมีความพากเพียร มุ่งมั่น กล้าที่จะลงมือปฏิบัติงานที่ท้าทายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 

3. Responsible Decision-Making ความรับผิดชอบในสิ่งที่ตัดสินใจ 

ความสามารถในการสร้างทางเลือกการแสดงพฤติกรรมและปฏิสัมพันธ์ต่อผู้อื่นอย่างเหมาะสมในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย คำนึงถึงความปลอดภัยและบรรทัดฐานทางสังคม 

4. Relationship Skills ทักษะด้านความสัมพันธ์ 

ความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์และปฏิบัติตนที่ดีต่อผู้อื่น ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในด้านการสื่อสาร การเจรจาต่อรอง สร้างความประนีประนอม เพื่อขจัดความขัดแย้ง และสามารถขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็นได้ 

5. Social Awareness การตระหนักรู้ทางสังคม 

ความสามารถในการเข้าใจผู้อื่น มีความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจพฤติกรรมที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล ซึ่งมีผลมาจากสังคม ค่านิยมและวัฒนธรรม

การเสริมสร้างทักษะ SEL ในชั้นเรียน 

ผู้สอนสามารถพัฒนาทักษะ SEL ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีปฏิสัมพันธ์ในชั้นเรียน อาทิ การทำงานกลุ่ม การอภิปรายแลกเปลี่ยนความเห็นร่วมกัน การเรียนรู้แบบโครงงาน ซึ่งทำให้เกิดการสื่อสารระหว่างกัน ผู้เรียนได้ทบทวนตนเอง เข้าใจตนเอง เข้าใจเพื่อน และเกิดการพูดคุยเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยผู้สอนใช้กระบวนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ 

การสนับสนุนจากสถานศึกษา 

สถานศึกษาสามารถสนับสนุนในด้านของการจัดการสภาพแวดล้อมที่ดีให้แก่ผู้เรียน มีพื้นที่ความปลอดภัยที่ส่งผลดีต่อการแสดงพฤติกรรม และสุขภาพจิตของผู้เรียน ผู้นำสถานศึกษาส่งเสริมกิจกรรมและนโยบายด้านสภาพแวดล้อม อาทิ การจัดตั้งทีมด้านการจัดการสภาพแวดล้อมในอาคารเรียน การจัดกิจกรรมสร้างสัมพันธ์เชิงบวกที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เกิดการสื่อสารแลกเปลี่ยนกัน การให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญ เช่น ที่ปรึกษา นักจิตวิทยา เป็นต้น 

การสนับสนุนจากครอบครัวและชุมชน 

กิจกรรมนอกห้องเรียนหรือกิจกรรมชุมชนจะช่วยให้ผู้เรียนได้พูดคุยกับเพื่อนและผู้ใหญ่มากขึ้น ได้รับประสบการณ์และฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ นอกเหนือจากการเรียนในสถานศึกษา กิจกรรมนอกห้องเรียนที่เน้นการพัฒนาอารมณ์และสังคมจะส่งผลที่ดีต่อผู้เรียนในการเข้าใจตนเอง สนับสนุนให้เกิดพฤติกรรมเชิงบวก ส่งผลถึงการมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดี และช่วยลดพฤติกรรมที่เป็นปัญหาลงได้ นอกจากนี้สถาบันครอบครัวก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งผู้ปกครองสามารถปลูกฝังและส่งเสริมทักษะ SEL ได้ตั้งแต่ปฐมวัย 

แนวทางการพัฒนาทักษะ SEL ด้วย RULER 

RULER คือ แนวทางการพัฒนา Social Emotional Learning : SEL ที่พัฒนาขึ้นโดย Yale Center for Emotional Intelligence เพื่อสนับสนุนในการให้คุณค่าของอารมณ์ สร้างทักษะความฉลาดทางอารมณ์ และสร้างบรรยากาศที่ดีในสถานศึกษา โดย RULER เป็นตัวย่อของความฉลาดทางอารมณ์ทั้ง 5 ประการ ได้แก่ 

R : Recognize (การจดจำ) หมายถึง การรับรู้อารมณ์ของตนเองและผู้อื่น โดยการสำรวจอารมณ์ในเบื้องต้นว่าวันนี้เรารู้สึกอย่างไร อารมณ์นี้ส่งผลในด้านบวกหรือลบอย่างไร การไม่เพิกเฉยกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นนั้น จะช่วยลดผลกระทบที่อาจส่งผลต่อสุขภาพกายได้ 

U : Understand (การทำความเข้าใจ) หมายถึง การเข้าใจสาเหตุและผลของอารมณ์ ว่าอะไรที่ทำให้เรารู้สึกเช่นนี้ เหตุการณ์อะไรในอดีตที่เชื่อมโยงกับความรู้สึกนี้ 

L : Label (นิยาม) หมายถึง การระบุอารมณ์ที่เกิดขึ้นให้ตรงกับสิ่งที่เรารู้สึกมากที่สุด ซึ่งยิ่งเราอธิบายถึงความรู้สึกของเราได้ชัดเจนเท่าไร เราก็จะยิ่งจัดการมันได้ดีเท่านั้น 

E : Express (การแสดงออก) หมายถึง หากเราเข้าใจอารมณ์ของเราเป็นอย่างดีแล้ว เราจะสามารถปรับอารมณ์ และเลือกแสดงออกในรูปแบบที่เหมาะสมได้ 

R : Regulate (การจัดการ) หมายถึง การจัดการอารมณ์ให้อยู่ในระดับปกติผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ วาดรูป เป็นต้น  

แนวทาง RULER จะช่วยให้ผู้คนทุกช่วงวัยสามารถใช้อารมณ์อย่างชาญฉลาด เปิดโอกาสทางความสำเร็จทั้งในบริบทของการศึกษา การทำงานและการใช้ชีวิต โดยทักษะเหล่านี้เป็นทักษะทั้งส่วนบุคคลและสังคม 

การพัฒนาทักษะ SEL ด้วยแนวทาง RULER สามารถพัฒนาด้วยเครื่องมือ 4 อย่าง ดังนี้ 

Charter คือ เครื่องมือเพื่อสร้างและรักษาบรรยากาศทางอารมณ์เชิงบวก โดยการสร้างบรรทัดฐานที่ตกลงร่วมกันในชั้นเรียนถึงความรู้สึกต่าง ๆ และการเคารพต่อผู้อื่น การแสดงความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในความรู้สึกเหล่านั้น 

Mood Meter คือ เครื่องมือเพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ในตนเองและสังคม ช่วยพัฒนาคำศัพท์เกี่ยวกับอารมณ์ที่เหมาะสมและกลยุทธ์ที่หลากหลายสำหรับการควบคุมอารมณ์ 

Meta-Moment คือ เครื่องมือเพื่อทบทวนและควบคุมอารมณ์ของตนเอง ด้วยเลือกวิธีการที่สอดคล้องกับตนเองและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้อื่น เช่น พักสมอง หายใจเข้าลึกๆ หาขนมกิน เป็นต้น 

Blueprint คือ เครื่องมือนี้จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถพิจารณาความขัดแย้งจากมุมมองของตนเองและมุมมองของผู้อื่น ช่วยพัฒนาทักษะการเอาใจใส่ ความเห็นอกเห็นใจ การนึกถึงความรู้สึกของกันและกัน พร้อมกันพูดคุยกันเพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหา 


Reference 

  • งานสัมมนาวิชาการ SoTL8 

หัวข้อ ทักษะและสมรรถนะที่จำเป็นในยุค Next Normal 

การเรียนรู้อารมณ์และสังคม Social Emotional Learning : SEL 

วิทยากร: รศ.ดร.ฐิติกาญจน์ อัศตรกุล ผศ.ดร.สุรวิทย์ อัสสพันธุ์ และผศ.ดร.ชลิดา จูงพันธ์ 

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

metta , Pedagogy

บทความแนะนำ