Active Learning include :
- ความสำคัญของการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
- แนวคิดและความหมายของการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
- ข้อดีของการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
- บทบาทของครูผู้สอนและผู้เรียนในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
- ลักษณะของการเรียนการสอนแบบ Active Learning
- แนวทางการวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
ความสำคัญของการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
ปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ มากมาย มีการไหลเวียนของข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก และมีความผันผวนของปรากฏการณ์ต่าง ๆ ทำให้ผู้คนต้องผู้คนต้องและพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงนั้น ซึ่งต้องอาศัยทักษะการคิดขั้นสูง (Higher-Order Thinking) และต้องมีทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยไม่จำกัดอยู่แต่ภายในห้องเรียนและไม่จำกัดเวลาในการเรียนรู้
ซึ่งนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาหลายท่านมองว่าแนวทางการสอนแบบผู้สอนเป็นศูนย์กลาง (Teacher-centered approach to learning) ซึ่งมักใช้การบรรยายเนื้อหาเป็นส่วนมากซึ่งผู้เรียนจะทำแค่รับฟังและจดบันทึก ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับกิจกรรมการเรียนการสอนนั้นเริ่มไม่ตอบโจทย์ บริบทการเรียนการสอนที่เปลี่ยนแปลงไปได้ และจำเป็นต้องมีการปรับปรุงพัฒนาหลักสูตร บุคลากรครู อาจารย์ ผู้สอนให้มีความรู้ ความเข้าใจในบทบาท แนวทางการสอนที่หลากหลายมากขึ้น และเชื่อว่าแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) นี้จะช่วยส่งเสริม และกระตุ้นผู้เรียนให้เกิดทักษะการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับบริบทโลกได้ อีกทั่งยังมีหลายงานวิจัยพบว่ายังช่วยส่งเสริมให้ประสิทธิภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ระดับความเข้าใจและคะแนนให้ดีขึ้นได้อีกด้วย
แนวคิดและความหมายของการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) มีรากฐานมาจากแนวคิดทางการศึกษาแบบสร้างองค์ความรู้ (Constructivist) โดยผู้เรียนเป็นผู้สร้างความรู้จากข้อมูลที่ได้รับมาใหม่ด้วยการนำไปประกอบกับประสบการณ์เดิมในอดีต โดยเป็นการสอนที่กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการคิดขั้นสูง (Higher-Order Thinking) เช่น การคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดวิพากย์ และการคิดสร้างสรรค์ เป็นต้น และยังส่งเสริมให้ผู้เรียนนมีส่วนร่วมในชั้นเรียน สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูผู้สอนและกับผู้เรียนด้วยกัน หรือกล่าวโดยสรุป คือ
“การสอนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้คิดและมีส่วนร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้”
รูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทาง Active Learning สามารถปรับเปลี่ยนประยุกต์ให้เหมาะสมกับบริบท รวมถึงธรรมชาติของผู้เรียนเป็นสำคัญ ไม่มีขั้นตอนกระบวนการที่ตายตัว แต่มีหลักการสำคัญก็คือการที่ครูไม่ใช่ผู้สอน นักเรียนไม่ใช่เครื่องจำ และบรรยากาศห้องเรียนจะส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กพูด ถาม และแสดงความเห็นได้ตลอดเวลา
ข้อดีของการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
- พัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง ในการเรียนรู้ผู้เรียนจะมีโอกาส มีส่วนร่วมในการปฏิบัติจริงและมีการใช้วิจารณญาณในการคิดและตัดสินใจในการปฏิบัติกิจกรรมนั้น มุ่งสร้างให้ผู้เรียนเป็นผู้กำกับทิศทางการเรียนรู้ ค้นหาสไตล์การเรียนรู้ของตนเอง สู่การเป็นผู้รู้คิด รู้ตัดสินใจด้วยตนเอง (Metacognition) ซึ่งทำให้เกิดการพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูงได้
- ส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับการเรียนเรียนรู้ ผู้เรียนจะมีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรมอย่างกระตือรือร้นในสภาพแวดล้อม ที่เอื้ออำนวย ผ่านการใช้กิจกรรมที่ครูผู้สอนจัดเตรียมไว้ให้อย่างหลากหลาย หรือผู้เรียนสามารถออกแบบและเลือกเรียนรู้กิจกรรมต่าง ๆ ตามความสนใจและความถนัดของตนเอง เกิดความรับผิดชอบและทุ่มเทเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จในการเรียนรู้
- ส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์กับครูผู้สอนและเพื่อร่วมชั้น ด้วยแนวทางการสอนที่ลดการบรรยาย มุ่งเน้นผู้เรียนมีส่วนร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้มากขึ้น รวมทั้งบทบาทของครูที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับบทเรียน ครู และเพื่อนร่วมชั้นมากขึ้น เช่น การถาม การตอบ แสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนเรียนรู้ การร่วมมือในกิจกรรมกลุ่ม เป็นต้น
- เพิ่มประสิทธิภาพและระดับการเรียนรู้เชิงลึก ในหลายงานวิจัยพบว่าการใช้แนวทางการเรียนรู้แบบ Active Learning นี้นอกจากจะช่วยกระตุ้นทักษะการคิดและการมีส่วนร่วมแล้ว ยังส่งผลถึงระดับความเข้าใจ ระดับการเรียนรู้ในเนื้อหารายวิชานั้น ๆ ด้วย
- พัฒนาทักษะการเรียนรู้และต่อยอดสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต ด้วยการให้ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนรู้ในสิ่งที่สนใจรวมถึงกำหนดวิธีการ กิจกรรมการเรียนรู้ได้ จึงส่งผลให้เกิดความรับผิดชอบ ทุ่มเทในการเรียนรู้ของตนเองมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self-Directed Learning) รวมถึงการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีสืบค้นข้อมูล แหล่งทรัพยากรเรียนรู้อื่นมาสนับสนุนการเรียนรู้ได้ ทำให้ผู้เรียนต่อยอดการเรียนรู้ได้ตามแนวทาง Life Long Learning
บทบาทของครูผู้สอนและผู้เรียนในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกนั้นนอกเหนือจากการออกแบบและวางแผนการสอนแล้ว ครูผู้สอนต้องปรับเปลี่ยนบทบาทของตนเองจากการเป็นผู้สอน ผู้บรรยาย และผู้ควบคุมจัดการห้องเรียนทั้งหมดด้วยตัวเอง ไปสู่บทบาทอื่น ๆ ในห้องเรียนหรือแนวทางในการจัดการสอน ได้แก่
- เป็นผู้สนับสนุนการเรียนรู้ (Facilitator) โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการจัดระบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง กระตุ้นสอบถามความสนใจ เลือกกิจกรรมการเรียนรู้ และสนับสนุนแหล่งข้อมูลที่จำเป็น รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมปฏิสัมพันธ์แบบต่าง ๆ ภายในห้องเรียนให้เกิดแรงขับเคลื่อนของการเรียนรู้
- เป็นผู้ให้คำปรึกษาชี้แนะ (Coach /Consult) ครูผู้สอนสามารถใช้คำถามกระตุ้นการเรียนรู้ เช่น การตั้งเป้าหมาย ให้คิดต่อยอด เกิดความสงสัยและคำถามที่นำไปสู่การค้นคว้าความรู้ รวมถึงการเป็นผู้ชี้แนะให้คำปรึกษาเมื่อผู้เรียนติดปัญหาที่ยากจะแก้ไข ทั้งด้านความรู้ ด้านสังคม จิตใจ
- เป็นผู้สังเกต ผู้สอนจะต้องระลึกเสมอว่าผู้เรียนแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งความสนใจ ความถนัด และคอยสังเกตผู้เรียนเพื่อกระตุ้น ชี้แนะ หรือยับยั้ง
- เปิดโอกาสให้ผู้เรียน ในบางวิชาอาจจะเป็นการยากที่จะปรับกิจกรรมการสอนให้ครบวงจร และยังจำเป็นต้องมีการใช้การบรรยายถ่ายทอดองค์ความรู้ แต่ครูผู้สอนก็สามารถเพิ่มโอกาสให้ผู้เรียนเข้าไปในกิจกรรมการสอนได้ เช่น การสร้างบรรยากาศให้ผู้เรียนได้ซักถาม กล้าตอบหรือแสดงความคิดเห็น หรือเปิดกว้างให้ผู้เรียนได้แสดงความเห็น ถกเถียง เป็นต้น
นอกจากนี้ด้วยการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางนี้ยังต้องอาศัยคุณลักษณะของผู้เรียนที่เหมาะสม ถึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งในช่วงแรกที่มีการปรับการสอนผู้เรียนอาจยังมีคุณลักษณะจากรูปแบบเก่า เช่น การเน้นฟัง ไม่กล้าถาม ตอบคำถามน้อย เป็นต้น ซึ่งผู้สอนต้องพยายามสร้างคุณลักษณะการเรียนรู้เชิงรุกให้แก่ผู้เรียนไปพร้อมกับการจัดการสอนให้บรรลุเป้าหมายด้วย โดยคุณลักษณะของผู้เรียนในการเรียนรู้แบบเชิงรุก มีดังต่อไปนี้
- ว่าตัวเองจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับอะไรบ้าง รู้สิ่งที่จะเรียน มีความรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ของตนเอง หรือมีการสร้างแรงจูงใจภายในได้
- มีนิสัยใฝ่รู้ รู้จักตั้งคำถาม เปิดกว้าง และค้นคว้าเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ทำให้กระจ่างสิ้น ความสงสัยได้
- ต่อยอดสิ่งที่เรียนรู้เข้ากับชีวิตจริง ชีวิตประจำวัน หรือความเป็นไปของโลกปัจจุบัน
- มีความกระตือรือร้นที่จะทำกิจกรรม สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ เคารพความเห็นที่แตกต่าง
- เป็นคนมีเหตุผลหรือมีกระบวนการคิดที่ดี โดยเฉพาะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การคิดวิพากย์ การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล ความคิดเห็นของผู้อื่น
ลักษณะของการเรียนการสอนแบบ Active Learning
- กระบวนการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมสร้างองค์ความรู้ และจัดระบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self-Directed Learning) และลดการบรรยายจากผู้สอนโดยตรงให้เหลือเท่าที่จำเป็น
- ใช้กิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนนำความรู้ ความเข้าใจไปประยุกต์ใช้ สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่า คิดสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ พัฒนาทักษะกระบวนการคิดไปสู่ระดับที่สูงขึ้น เช่น การเรียนรู้โดยใช้ปัญหา/โครงงานเป็นฐาน (Problem/Project-Based Learning) การตั้งคำถาม (Questioning-based Learning) แลกเปลี่ยนความคิด (Think – Pair – Share) การสะท้อนคิด (Reflection)
- กิจกรรมการเรียนรู้ควรเชื่อมโยงกับนักเรียน กับสภาพแวดล้อมใกล้ตัว ปัญหาของชุมชน สังคม หรือประเทศชาติ เช่น การเรียนรู้เชิงประสบการณ์ (Experiential Learning) หรือการเรียนรู้โดยใช้ปัญหา/โครงงานเป็นฐาน (Problem/Project-Based Learning)
- กิจกรรมการเรียนรู้ควรเน้นการมีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน และปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้เรียนด้วยกัน เช่น ตอบคำถาม แลกเปลี่ยนความคิด
- นำความรู้ที่ได้ไปใช้แก้ปัญหาใหม่ หรือใช้ในสถานการณ์ใหม่
- เน้นให้ผู้เรียนได้ใช้ความคิดของตนเองอย่างมีเหตุมีผล มีโอกาสร่วมอภิปรายและนำเสนอผลงาน เช่น การตั้งคำถาม (Questioning-based Learning) แลกเปลี่ยนความคิด (Think – Pair – Share) การโต้วาที (Debate) การใช้กรณีศึกษา (Case Study)
แนวทางการวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
ด้วยลักษณะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในการเรียนรู้เชิงรุก จะมีความหลากหลายมากกว่ารูปแบบการสอนแบบเดิมที่เน้นการบรรยาย ทำให้โดยทั่วไปการวัดประเมินผลจะต้องมีการเพิ่มการวัดประเมินเพื่อการพัฒนา (Formative Assessment) แทนการใช้การวัดประเมินเพื่อตัดสิน (Summative Assessment/Evaluate) เพียงอย่างเดียวที่มุ่งวัดผลที่ปลายทางการเรียนรู้ เพราะครูผู้สอนจำเป็นต้องติดตามความก้าวหน้า พัฒนาการในการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างสม่ำเสมอ และคอยให้การสนับสนุน ชี้แนะให้คำปรึกษาแก่ผู้เรียนเมื่อเกิดข้อสงสัย ติดปัญหาขึ้นจนผู้เรียนบรรลุเป้าหมายการเรียนรู้หรือบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้
Reference
Freeman, S., Eddy, S. L., McDonough, M., Smith, M. K., Okoroafor, N., Jordt, H., & Wenderoth, M. P. (2014). Active learning increases student performance in science, engineering, and mathematics.
https://www.pnas.org/doi/full/10.1073/pnas.1319030111
Michael, J. (2006). Where’s the evidence that active learning works?. https://journals.physiology.org/doi/full/10.1152/advan.00053.2006
Bonwell, C. C., & Eison, J. A. (1991). Active learning: Creating excitement in the classroom. https://files.eric.ed.gov/fulltext/ED336049.pdf
https://academic.obec.go.th/images/document/1603180137_d_1.pdf
https://www.eef.or.th/news-thai-active-learning/