โดย รศ. ดร.อธิปัตย์ บุญเหมาะ อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์
ในปัจจุบันการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษยังคงเน้นการฝึกฝนด้านไวยากรณ์ตามแนวทาง Grammar Translation Method ที่อาจารย์ทางภาษารู้จักในหลักการ EFL (English as a Foreign Language) อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวอาจไม่ได้เหมาะกับผู้เรียนที่มีความหลากหลาย มีระดับความสามารถและความถนัดทางภาษาที่ต่างกัน ดังนั้น จึงได้มีการออกแบบหลักสูตร “Hobby Course” ภายใต้ปรัชญาที่ว่า การเรียนรู้และฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษอย่างได้ผลควรเริ่มต้นจาก ความชอบหรือความสนใจของผู้เรียนเป็นตัวตั้ง ซึ่งเปรียบเสมือนกับ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่มีตัวบะหมี่พร้อมอยู่แล้ว เพียงแค่เติมน้ำร้อนก็สามารถรับประทานได้ทันที หลักสูตรนี้มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษผ่านกิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ตนเองสนใจ พร้อมทั้งส่งเสริมทักษะทางดิจิทัลผ่านการใช้เทคโนโลยีที่เข้าถึงง่าย เช่น ChatGPT, QuillBot, Google Translate และเว็บกระทู้สนทนา Reddit เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้เชิงรุก และสร้างประสบการณ์การใช้ภาษาอังกฤษในบริบทจริงอย่างเป็นธรรมชาติ
ในการออกแบบหลักสูตร Hobby Course เบื้องต้นจะต้องมีการเปลี่ยนมุมมองการเรียนรู้ทักษะภาษาอังกฤษจากแนวทาง EFL (English as a Foreign Language) ไปเป็น ELF (English as a Lingua Franca) ซึ่งเน้นการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ทั้งการพูดและการเขียนกับชาวต่างชาติได้อย่างมั่นใจ โดยในบริบทของ ELF นั้น การใช้ภาษาอังกฤษไม่จำเป็นต้องถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ 100% เสมอไป สิ่งสำคัญคือการสื่อสารที่ชัดเจน เข้าใจได้ และเหมาะสมกับสถานการณ์จริง ผู้เรียนควรสามารถใช้ภาษาในระดับที่ถ่ายทอดความหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกิจกรรมการสอนในห้องเรียนจะมีการออกแบบให้เชื่อมโยงกับบริบทของสังคมและการใช้ภาษาในชีวิตจริง (Real world Task) เพื่อให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด โดยมีกิจกรรมของหลักสูตร Hobby Course ที่น่าสนใจ ดังนี้
- เขียนแนะนำตัวเองภาษาอังกฤษ กิจกรรมแรกสุดของหลักสูตร เป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนได้เริ่มต้นใช้ภาษาด้วยตนเองในบริบทที่ใกล้ตัว โดยให้ผู้เรียนแนะนำตนเอง ซึ่งผู้เรียนสามารถเลือกใช้การสะกดได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย พบว่ามีผู้เรียนบางคนยังไม่มั่นใจและสะกดเป็นภาษาไทยมา เช่น มาย เนม อีส ณัฐวุฒิ ไอ แอม เฟิร์ส เยีย สะ ติว เดนท์
- ดูวิดีโอและสรุปความ ให้ผู้เรียนดูวิดีโอสั้นในภาษาไทยและสรุปความเป็นภาษาไทย จากนั้นให้นำสรุปความที่ได้ไปทดลองแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วย Google Translate และนำผลลัพธ์ที่ได้มาวิเคราะห์เปรียบเทียกับโครงสร้างประโยคที่ถูกต้อง โดยเน้นให้ผู้เรียนเห็นถึงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้จากการใช้งานเทคโนโลยี เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในการใช้เทคโนโลยีอย่างมีวิจารณญาณ (Digital Literacy) ผู้เรียนจะเข้าใจว่าการพึ่งพาเทคโนโลยีควรมาพร้อมกับความรู้ภาษาในระดับหนึ่ง เพื่อสามารถตรวจสอบและแก้ไขผลลัพธ์ให้ถูกต้องและเหมาะสมยิ่งขึ้น
- ใช้ ChatGPT เพื่อฝึกฝนการสื่อสารผ่านการเขียนภาษาอังกฤษ และช่วยในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในหลักสูตร
- วิดีโอพูดแนะนำตนเองและงานอดิเรก โดยให้ผู้เรียนสร้างวิดีโอการพูดเกี่ยวกับงานอดิเรก
- โพสต์งานเขียนใน Web board Online : Reddit เพื่อถามประเด็นที่ผู้เรียนสนใจและเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รับ Comment หรือข้อความ Feedback จากผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ที่ตรงประเด็นกลับมา ซึ่งผู้เรียนจะเห็นว่าต้องมีการใช้หลักไวยากรณ์ให้ถูกต้องเพื่อสื่อความหมายได้อย่างชัดเจน รวมถึงเรียนรู้วิธีการเขียนโพสข้อความให้น่าสนใจและดึงดูดผู้อ่านมากยิ่งขึ้น
ผลลัพธ์
หลักสูตร Hobby course มีการจัดการเรียนการสอนมาแล้ว 4 – 5 ภาคการศึกษา ซึ่งเกิดผลลัพธ์ที่ดีกับหลักสูตรนานาชาติที่มีผู้เรียนชาวต่างชาติเรียนรู้ร่วมกันกับผู้เรียนชาวไทย ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เรียนที่มีทักษะภาษาอังกฤษพื้นฐานในระดับดี
จากประสบการณ์เชิงบวกนี้ จึงเกิดแนวคิดที่จะขยายการประเมินผลลัพธ์ของกิจกรรมในหลักสูตร Hobby Course ไปสู่กลุ่มผู้เรียนที่มีทักษะภาษาอังกฤษพื้นฐานในระดับต่ำกว่า โดยในภาคการศึกษาล่าสุด ได้มีการทดลองนำหลักสูตรนี้ไปใช้กับกลุ่มดังกล่าว พร้อมประเมินประสิทธิภาพในการเรียนรู้ ผลการประเมินพบว่า ผู้เรียนสามารถปรับตัวเข้ากับแนวทางของหลักสูตรได้เป็นอย่างดี มีความเปิดใจต่อการเรียนรู้ รู้สึกมีความสุขและสนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้น อีกทั้งยังแสดงออกถึงความมั่นใจในการสื่อสารภาษาอังกฤษ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ด้วยความเข้าใจและวิจารณญาณ นอกจากนี้ ผู้เรียนยังสะท้อนว่าตนได้รับประสบการณ์จริงในการใช้ภาษาอังกฤษผ่านการสื่อสารออนไลน์กับชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นการใช้งานในชีวิตจริง ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเรียนเพื่อสอบ เช่น การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นใน Web board ต่างประเทศ
นอกจากผู้เรียนจะได้รับประโยชน์จากกระบวนการเรียนรู้ที่ออกแบบให้สอดคล้องกับความสนใจของตนเองแล้ว ผู้สอนเองก็ได้เรียนรู้และปรับเปลี่ยนแนวคิดและทัศนคติในการสอน จากเดิมที่อาจมีความกังวลว่า การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนรู้แบบนี้อาจทำให้เนื้อหาสำคัญตกหล่น หรือผู้เรียนได้รับความรู้ไม่ครบถ้วน ทว่าในทางกลับกัน ผู้สอนกลับพบว่า เมื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในแบบที่เหมาะสมกับตนเอง ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือการเรียนรู้ที่ลึกขึ้น และผู้เรียนมีความกระตือรือร้นมากกว่าเดิม สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงสะท้อนถึงการปรับตัวในเชิงวิธีการสอน แต่ยังนำไปสู่การต่อยอดในการสร้าง “นวัตกรรมการเรียนการสอน” ผ่านการบูรณาการเทคโนโลยีเข้ามาใช้อย่างสร้างสรรค์ และการเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับอาจารย์ในเวทีวิชาการด้านการสอนอย่างต่อเนื่อง