แนวทางออกแบบกระบวนการเรียนรู้ Project Based Learning

feather-calendarPosted on 3 มีนาคม 2025 document PedagogyLearning Theoryคลังความรู้
แชร์

บทความโดย
นายไพฑูรย์ อนันต์ทเขต นักพัฒนาการศึกษา สถาบันการเรียนรู้

Project-based Learning เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่มีคล้ายคลึงกับ Problem-based Learning โดยทั้ง 2 แนวทางจะส่งเสริมการเรียนรู้แบบเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางและช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็น เช่น การทำงานร่วมกัน การคิดวิเคราะห์ และการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งในบางครั้งนักวิชาการก็ใช้ตัวย่อแบบเดียวกัน คือ “PBL” แต่บางครั้งอาจย่อเป็น “PjBL” เพื่อให้สามารถแยกแยะ มีความแตกต่างกัน

ในรายละเอียดของกระบวนการเรียนรู้ทั้ง 2 แบบมีจุดที่แตกต่างกันอยู่ ดังนี้

 Problem Based Learning (PBL)Project Based Learning (PjBL)
Focus/Outcomeเน้นการได้มาซึ่งวิธีการแก้ปัญหา อาจจะใช้ได้ทั้งการทดลอง วิจัย และสืบค้นข้อมูลมุ่งเน้นการสร้างสิ่งที่ตอบสนองต่อโจทย์ตั้งต้น เช่น ผลิตภัณฑ์, กระบวนการ, ความรู้
Time Frameกระบวนการเรียนรู้สามารถถูกออกแบบให้สิ้นสุดได้ทั้งระยะยาวหรือสั้น เช่น วันสัปดาห์ หรือ เดือนกระบวนการเรียนรู้มักจะใช้เวลานาน หรือประกอบไปด้วยหลายขั้นตอน โดยอาจจะเป็นได้ตั้งแต่หน่วยเดือน เทอม หรือปีการศึกษา ขึ้นอยู่กับขนาดของผลิตภัณฑ์
Student Roleเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ผู้เรียนต้องระบุประเด็นปัญหา ลงมือค้นคว้าวิจัย และแก้ไขปัญหาเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนคิดค้น ออกแบบ วางแผนขั้นตอนการทำงาน และสร้างผลิตภัณฑ์
Teacher Roleทำหน้าที่ชี้นำการอภิปราย ถกเถียงข้อมูล ผ่านการตั้งคำถาม และการกระตุ้นผู้เรียนลงมือสำรวจ ค้นคว้าข้อมูลที่ลึกซึ้งมากขึ้นทำหน้าที่ coach หรือ ให้คำชี้แนะ สนับสนุนเครื่องมือ สนับสนุนกระบวนการทำงานในการทำโครงงานของผู้เรียน

โดยส่วนใหญ่ เมื่ออาจารย์ผู้สอนต้องการนำเอา PBL หรือ PjBL มาประยุกต์ใช้กับรายวิชาของตนเองนั้นจะสามารถนำกระบวนการ ขั้นตอน หรือเทคนิคทั้ง 2 รูปแบบมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทหรือเป้าหมายรายวิชาได้ หรือสามารถออกแบบตามแนวทางเบื้องต้นในบทความ ดังนี้

แนวทางออกแบบกระบวนการทำงานของผู้เรียนตามหลักการ Project Based Learning

  1. การระบุและกำหนดโครงการ (Identifying and defining the project)
    • Driving Question or Challenge คือการตั้งคำถามหรือกระตุ้น เพื่อท้าทายผู้เรียนให้เกิดความสนใจเกี่ยวกับบริบทรอบตัวผู้เรียนหรือกลุ่ม เพื่อจะนำไปสู่การค้นคว้าเกี่ยวกับโจทย์หรือประเด็นที่จะนำไปพัฒนาเป็นโครงงาน 
    • Research ให้ผู้เรียนศึกษาและค้นคว้าข้อมูล องค์ความรู้ หรือทฤษฎี หลักการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการลงมือทำโครงงาน
    • Selecting the topic คือการให้ผู้เรียนประมวลผลข้อมูล องค์ความรู้ ทฤษฎี ถกเถียงกันในกลุ่มเพื่อทำการตัดสินใจเลือกประเด็น
  2. วางแผนโครงการ (Project Planning)
    • Design the project framework ให้ผู้เรียนวางแผนขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ เพื่อให้การสร้างทำโครงงานสำเร็จลุล่วง เช่น การกำหนดขั้นตอน ระยะเวลา ทรัพยากรที่ต้องใช้ ผู้รับผิดชอบ ในขั้นนี้จะเป็นการให้อิสระผู้เรียนในการกำหนด โดยอาจารย์ผู้สอนให้คำแนะนำแก่ผู้เรียนเพื่อให้โครงงานสำเร็จตามกรอบเวลาที่กำหนด
    • Design project monitoring & evaluation ออกแบบวิธีการติดตามการทำงานและการวัดผลการทำโครงงาน เช่น วัดผลการใช้งานกระบวนการ การใช้ความรู้ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่คิดหรือทำขึ้น
  3. ดำเนินโครงการ (Project Implementation)
    • Generating ideas ผู้เรียนร่วมกันระดมสมอง ถกเถียง ใช้องค์ความรู้ เพื่อคิดค้นกระบวนการ หรือองค์ความรู้ที่จำเป็นต้องใช้ในการทำโครงงาน รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์
    • Make a Prototypes ผู้เรียนใช้ทักษะการทำงานเชิงช่างเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบ รวมถึงทดสอบ ปรับปรุง แก้ไขผลิตภัณฑ์ในเบื้องต้นตามความเห็นของกลุ่ม ผู้เชี่ยวชาญ หรืออาจารย์
    • Testing Product in authentic setting นำผลิตภัณฑ์ไปใช้งานในบริบทจริง พร้อมทั้งทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเพื่อนำมาสรุปผลที่เกิดขึ้น ซึ่งผลจากการใช้งานในสภาพแวดล้อม บริบทจริงนั้นจะช่วยให้ผู้เรียนได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เห็นความสำคัญ ความเชื่อมโยงระหว่าง เนื้อหาความรู้ ทักษะ ที่จะนำไปใช้จริง รวมถึงการคิดไตร่ตรอง ต่อยอดความคิดไปยังอนาคตอีกด้วย
  4. สรุปผลโครงการ (Project Conclusion)
    • Report on project findings ให้ผู้เรียนเขียนสรุปข้อมูลจากการลงมือทำโครงงาน เช่น กระบวนการทำงานของโครงงานว่าเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้หรือไม่อย่างไร อธิบายสรุปกระบวนการที่ใช้แก้ไขปัญหาหรือดำเนินงานในบริบทจริง องค์ความรู้ที่เกิดขึ้น หรือตัวผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์ขึ้น และผลที่เกิดขึ้นจากการนำผลิตภัณฑ์ไปใช้งานในบริบทจริง รวมทั้งแนวคิดที่สามารถต่อยอดในอนาคต
    • Learning Report/Journal ในทุกขั้นตอนการทำงานอาจารย์ผู้สอนควรจะให้ผู้เรียนแต่ละคนได้บันทึกข้อมูลการทำงานและการเรียนรู้ในแบบรายงานตนเอง (self-report/learning journal) รวมถึงการพูดคุยกันเป็นระยะจนกว่าโครงงานจะแล้วเสร็จ
  5. นำเสนอโครงงาน (Project Presentation)
    • Presentation/Pitching ในขั้นสุดท้ายควรจัดให้มีการแบ่งปันโครงการโดยการนำเสนอ เข้าร่วมงานสัมมนา จัดเวทีสาธิต จัดนิทรรศการ หรือแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อแสดงผลงาน อธิบายผลลัพธ์ความรู้สึกแลกเปลี่ยนประสบการณ์ข้อคิดเห็น ซึ่งผู้เรียนจะได้ฝึกฝนการจัดทำสื่อ เรียนรู้วิธีการนำเสนอที่น่าสนใจ ฝึกฝนทักษะการสื่อสาร
    • Sharing and Reflection แลกเปลี่ยนสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการดำเนินโครงงานและเชื่อมโยงสิ่งที่ได้เรียนรู้กับวัตถุประสงค์การเรียนรู้และเนื้อหาของรายวิชา ซึ่งอาจารย์สามารถให้ Feedback ชื่นชมถึงความพยายามในการทำโครงงานได้เช่นเดียวกับ Problem-Based Learning ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของสิ่งที่ได้ทำ เห็นคุณค่าในตัวเอง ภูมิใจกับความสามารถ ทักษะ และความรู้ที่พัฒนาขึ้น

references

  • Perkins, D. The 5 phases of project-based learning. TeachThought. Retrieved from https://www.teachthought.com/project-based-learning/phases/
  • ศูนย์นวัตกรรมนโยบาย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. (2560). การจัดการเรียนการสอนในแนว Project-Based Learning สำหรับโรงเรียนเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์. Retrieved from http://pichet-pinit.in.th/wp-content/uploads/2017/02/Final-Report-PjBL-Part-1.pdf
  • Jalinus, N., Nabawi, R. A., & Mardin, A. (2017). The seven steps of project-based learning model to enhance productive competences of vocational students.
  • Lucas Education Research. (2013). Key principles for project-based learning.