แนวทางการเขียน Rubric

feather-calendarPosted on 4 ตุลาคม 2023 document Pedagogyคลังความรู้
แชร์

เรียบเรียงโดย
น.ส. จันทิมา ปัทมธรรมกุล นักวิจัย สถาบันการเรียนรู้

การเขียนเกณฑ์ประเมิน

ในการเขียนเกณฑ์ประเมินให้ตรงกับสิ่งที่เราต้องการวัด ผู้สอนสามารถตรวจสอบได้ตามเช็คลิสดังต่อไปนี้

1. Appropriate – เกณฑ์ประเมินเป็นคุณลักษณะหรือองค์ประกอบที่แสดงถึงการเรียนรู้ นำไปสู่การอธิบายหลักฐานของการเรียนรู้ ไม่ใช่อธิบายลักษณะผลงาน

2. Definable – มีนิยามที่ชัดเจน ทั้งผู้สอนและผู้เรียนเข้าใจความหมายของเกณฑ์ตรงกัน

3. Observable – สามารถสังเกตได้

4. Distinct from one another – แต่ละเกณฑ์แสดงถึงผลการเรียนรู้ในด้านที่แตกต่างกัน

5. Complete – แสดงครบทุกมิติของการบรรลุผลการเรียนรู้ที่กำลังประเมิน

6. Able to support descriptions along a continuum of quality – สามารถอธิบายคุณภาพของระดับความสามารถหรือพฤติกรรมที่จะประเมินได้ต่อเนื่องกัน และต่างกันในแต่ละระดับ

การเขียนคำอธิบายระดับพฤติกรรม

ลักษณะของคำอธิบายระดับพฤติกรรมควรมีลักษณะดังต่อไปนี้

– Descriptive อธิบายพฤติกรรมที่สังเกตได้จากกระบวนการทำงานหรือผลงาน

– Clear ทั้งผู้เรียนและผู้สอนเข้าใจในคำอธิบายได้ตรงกัน

– Cover the whole range of performance อธิบายพฤติกรรมที่เรียงระดับคุณภาพจากสูงสุด-ต่ำสุด หรือ ต่ำสุด-สูงสุด

– Distinguish among levels คำอธิบายแต่ละระดับมีความแตกต่างกัน ไม่ใกล้เคียงหรือทับซ้อน ช่วยให้จำแนกคุณภาพงานหรือพฤติกรรมที่แตกต่างกัน

– Center the target performance (acceptable, mastery, passing) at the appropriate level คำอธิบายในระดับที่คาดหวัง เช่น ผ่าน, ระดับ 3 จาก 5 สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่กำหนดไว้

– Feature parallel descriptions from level to level – คำอธิบายแต่ละระดับแสดงถึงความแตกต่างขององค์ประกอบหรือตัวชี้วัดเดียวกัน

ผู้สอนสามารถใช้คำที่เจาะจง หรือเป็นคำตรงข้าม เพื่อสื่อความหมายที่ตรงกับสิ่งที่อยากให้มี หรือใส่ “คำเชื่อม” ที่แสดงให้เห็นว่าต่างกัน เช่นคำว่า “แต่ …” จะดีกว่าการอธิบายความแตกต่างจากระดับอื่นโดยเพิ่มเพียงคำว่าไม่/ไม่ใช่

คำถามที่พบได้บ่อยในการเขียนรูบริคมีดังนี้

Q : เริ่มต้นเขียนคำอธิบายอย่างไรดี

A : คำถามเบื้องต้นสำหรับการระบุเกณฑ์ที่เหมาะสม คือ ลักษณะงานแบบใดที่จะเป็นหลักฐานชี้ว่าผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ ตามผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง

Q : สามารถใช้ขั้นการเรียนรู้ใน Bloom’s Taxonomy เป็นระดับเกณฑ์ประเมินของรูบริคได้หรือไม่

A : ได้ หากใช้รูบริคในการประเมินแบบ summative เพื่อการตัดเกรด แต่ควรหาวิธีการระบุคุณภาพของชิ้นงานเพิ่มเติม เช่น เขียนรูบริคแบบ analytic สำหรับประเมินคุณภาพของชิ้นงานหรือสิ่งที่ผู้เรียนสามารถทำได้

ในบางครั้ง อาจใช้ขั้นการเรียนรู้ร่วมกับการอธิบายระดับคุณภาพ เช่น ในระดับที่ต่ำกว่าระดับที่คาดหวังอาจใช้ขั้นของการเรียนรู้เพื่อให้เห็นถึงขั้นตอนของการพัฒนาของผู้เรียน และในขั้นที่สูงกว่าระดับที่คาดหวังจะใช้การอธิบายระดับคุณภาพของชิ้นงานหรือสิ่งที่ผู้เรียนสามารถทำได้แล้ว

Q : การเริ่มเขียนคำอธิบายเราควรเขียนคำอธิบายระดับใดก่อนA : จริงๆแล้วการเขียนคำอธิบายนั้น เราสามารถเริ่มเขียนจากระดับใดก่อนก็ได้ โดยเราสามารถเลือกใช้ 3 วิธีการแนะนำดังต่อไปนี้

แบบที่ 1 Build up คือ เขียนจากระดับต่ำสุดก่อน โดยอธิบายคุณภาพที่เป็นไปตามกรอบแนวคิดน้อยที่สุด หรือไม่เป็นไปตามกรอบแนวคิด และเพิ่มให้มีคุณภาพที่เป็นไปตามตัวบ่งชี้มากขึ้นในระดับคะแนนที่สูงกว่า

แบบที่ 2 Back off คือ เขียนจากระดับสูงสุดก่อน โดยอธิบายคุณภาพที่ครบถ้วนตามกรอบแนวคิด ครบถ้วนทุกตัวบ่งชี้ และลดลงตามระดับจนถึงต่ำสุดที่เป็นไปตามตัวบ่งชี้น้อยที่สุด หรือไม่เป็นไปตามตัวบ่งชี้เลย

แบบที่ 3 Mix คือ เขียนจากระดับกลางที่เป็นระดับผ่านเกณฑ์ แล้วเพิ่มระดับคุณภาพตามคะแนนที่เพิ่มขึ้น และลดระดับคุณภาพตามคะแนนที่ลดลง

Q : หากไม่มีชิ้นงานของผู้เรียนเลย เราจะเริ่มเขียนคำอธิบายระดับพฤติกรรมอย่างไรA : เราอาจใช้วิธีการตั้งคำถามกับตัวเองโดยนึกถึงมุมของผู้เรียนในประเด็นดังต่อไปนี้ เช่น
• ผู้เรียนจะต้องทำอะไรและทำอย่างไรเพื่อให้งานนั้นมีคุณภาพในระดับต่าง ๆ

• ความยากที่ต้องพบเจอในการทำงานนั้นที่อาจส่งผลกับคุณภาพงาน

• คุณภาพงานในแต่ละระดับอาจพบความผิดพลาดใดได้บ้าง

• งานที่มีคุณภาพดีมากอาจมาจากการทำสิ่งเล็กน้อยที่เหนือความคาดหวัง สิ่งที่เหนือความคาดหวังนั้น (โดยที่ยังเกี่ยวข้องกับผลการเรียนรู้) คืออะไร

• ตัวชี้วัดความสำเร็จของงานนั้นมีอะไรบ้าง

Q : เขียนคำอธิบายโดยใช้ % หรือสัดส่วนคะแนนของข้อสอบโดยไล่ระดับจากคะแนนน้อย-มาก ได้หรือไม่

A : ใช้ได้ ในกรณีต่อไปนี้

1. กรณีเป็นการประเมิน concept เดียวกัน โดยที่สัดส่วนคะแนนต่างกันแสดงถึงระดับความชำนาญหรือความคล่องแคล่วที่ต่างกัน

2. กรณีเป็น concept เดียวกัน แต่มีระดับความยากง่าย อาจต้องมีการระบุให้ชัดเจนว่าข้อใดเป็นระดับยากหรือง่าย ใน Rubric ก็จะมีการกำหนดว่าในข้อระดับยาก และระดับง่ายจะต้องได้กี่เปอร์เซ็นต์ เช่น Level 3 จะต้องผ่านระดับง่ายอย่างน้อย xx% และระดับยากอย่างน้อย yy%  Level 4 จะต้องผ่านระดับง่ายอย่างน้อย xx% และระดับยากอย่างน้อย yy%

Q : ในการเขียนรูบริค เราสามารถเริ่มเขียนคำอธิบายแต่ละระดับเลย โดยข้ามขั้นตอนระบุองค์ประกอบหรือเกณฑ์ประเมินได้ไหม

A : ทำได้ในกรณีที่ผลการเรียนรู้มีความเฉพาะเจาะจง มีนิยามและขอบเขตที่ชัดเจน รวมถึงพฤติกรรมที่จะประเมินไม่ได้มีหลายองค์ประกอบที่ต้องพิจารณา แม้จะเป็นกรณีดังกล่าว การทำขั้นตอนระบุองค์ประกอบหรือเกณฑ์ประเมินก่อนที่จะเขียนคำอธิบายแต่ละระดับจะช่วยให้ผู้ประเมินตรวจทานเป้าหมายที่แท้จริงของสิ่งที่กำลังประเมินว่าสอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่กำหนดไว้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้ Holistic rubric ที่ไม่ได้เขียนแยกเกณฑ์ประเมินเป็นส่วน ๆ แต่เป็นการเขียนทุกเกณฑ์รวมกันและประเมินในภาพรวม การทำขั้นตอนระบุองค์ประกอบจะช่วยให้แน่ใจว่ารูบริคนั้นประเมินเกณฑ์ที่ชี้วัดถึงผลการเรียนรู้ได้ครบถ้วน

นอกจากนี้การเขียนคำอธิบายพฤติกรรม ยังมีข้อควรระวังที่ต้องคำนึงถึงอีกดังต่อไปนี้

– Realistic expectations คำอธิบายในแต่ละระดับต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ หรือมีโอกาสที่จะเกิดขึ้น เช่น ในระดับต่ำสุดคือนักเรียนไม่สามารถทำได้เลย

– Not evaluative ไม่ใช้คำอธิบายในลักษณะประเมินค่าหรือตัดสินผล เช่น ดีมาก ดี แย่ 

– Low inference หลีกเลี่ยงคำอธิบายที่สามารถตีความได้หลายอย่าง แต่ก็ต้องไม่ใช่การอธิบายที่เหมือนมีคำตอบเดียว หรือเขียนให้ไม่สามารถตีความเป็นอย่างอื่น แต่ควรเปิดช่องว่างให้ผู้ประเมินได้พิจารณาว่าผลงานของนักเรียนจะตรงกับระดับใด เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการประเมินและยังคงบ่งชี้ถึงคุณภาพของสิ่งที่ประเมิน

– Usefulness คำอธิบายให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้ปรับปรุงหรือพัฒนาการสอน และการเรียนรู้ของผู้เรียน